วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

@ มาจะกล่าวบทไป                                           ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ                                                  ประทานให้ล้างเท้เทวา
อยู่บันไดเขาไกรลาสเป็นนิจ                                          สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหลัง
บ้างให้ตักน้ำล้างบาทา                                                  บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป
จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู                                    ดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้
ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ                                                    ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า
เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย                                                 มิตายก็จะได้เห็นหน้า
คิดแล้วก็รีบเดินมา                                                        เฝ้าพระอิศราธิบดี

            @ ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์                             ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี                                              ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท                                              ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์
ตัวข้าก็มีชอบนัก                                                            ล้างเท้าสัรารักษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช                                                ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี
กรรมเวรสิ่งใดดังนี้                                                         ทูลพลางโศกีรำพัน

ถอดความเป็นร้อยแก้ว

เมื่อนั้น นนทกมีน้ำใจที่กล้าหาญ  ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ ให้ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่บันไดไกรลาสเทวดาเหล่านั้นทั้งตบหัวหยอกล้อและแม้ก็ให้นำน้ำมาล้างเท้าให้หรืแม้ถอนเส้นผมทำให้เส้นผมนั้นเหลือถึงเพียงหูก้มมองเงาในน้ำพร้อมกับร้องไห้  รู้สึกแค้นใจมากดวงตาแดงเหมือนแสงไฟ  เป็นชายแล้วดูหมิ่นชายด้วยกัน  ถึงตายก็จะได้เจอหน้ากันพอคิดในใจแล้วก็รีบเดินมาเข้าเฝ้าพระอิศราธิบดี

เมื่อถึงจึงน้อมไหว้เท้าของเทวดาทูลองค์พระอิศวรว่าพระองค์เป็นแผ่นดินโลกหากใครทำชอบต่อเบื้องบาทก็ให้พรพร้อมยศศักดิ์ ตัวนนทกนั้นก็ชอบนักล้างเท้าเทวดาผู้คุ้มครองถึง10ล้านปี  พระองค์ผู้มีศักดาเดช ไม่โปรดเผ้าผมแก่ข้าบทศรี หากเวรกรรมสิ่งใดกราบพลางโศกีรำพัน

วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

ถอดความเป็นร้อยแก้วรามเกียรติ์ตอนนารายณ์ปราบนนทก

    
            @ มาจะกล่าวบทไป                                           ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ
ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ                                                  ประทานให้ล้างเท้เทวา
อยู่บันไดเขาไกรลาสเป็นนิจ                                          สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหลัง
บ้างให้ตักน้ำล้างบาทา                                                  บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป
จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู                                    ดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้
ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ                                                    ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า
เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย                                                 มิตายก็จะได้เห็นหน้า
คิดแล้วก็รีบเดินมา                                                        เฝ้าพระอิศราธิบดี

            @ ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์                             ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี
ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี                                              ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์
ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท                                              ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์
ตัวข้าก็มีชอบนัก                                                            ล้างเท้าสัรารักษ์ถึงโกฏิปี
พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช                                                ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี
กรรมเวรสิ่งใดดังนี้                                                         ทูลพลางโศกีรำพัน

ถอดความเป็นร้อยแก้ว

เมื่อนั้น นนทกมีน้ำใจที่กล้าหาญ  ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ ให้ล้างเท้าเทวดาอยู่ที่บันไดไกรลาสเทวดาเหล่านั้นทั้งตบหัวหยอกล้อและแม้ก็ให้นำน้ำมาล้างเท้าให้หรืแม้ถอนเส้นผมทำให้เส้นผมนั้นเหลือถึงเพียงหูก้มมองเงาในน้ำพร้อมกับร้องไห้  รู้สึกแค้นใจมากดวงตาแดงเหมือนแสงไฟ  เป็นชายแล้วดูหมิ่นชายด้วยกัน  ถึงตายก็จะได้เจอหน้ากันพอคิดในใจแล้วก็รีบเดินมาเข้าเฝ้าพระอิศราธิบดี

เมื่อถึงจึงน้อมไหว้เท้าของเทวดาทูลองค์พระอิศวรว่าพระองค์เป็นแผ่นดินโลกหากใครทำชอบต่อเบื้องบาทก็ให้พรพร้อมยศศักดิ์ ตัวนนทกนั้นก็ชอบนักล้างเท้าเทวดาผู้คุ้มครองถึง10ล้านปี  พระองค์ผู้มีศักดาเดช ไม่โปรดเผ้าผมแก่ข้าบทศรี หากเวรกรรมสิ่งใดกราบพลางโศกีรำพัน

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ให้นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับปฎิกิริยาในชีวิตประจำวันพร้อมทั้งให้ระบุสารตั้งต้น สารผลิตภัณฑ์

ให้นักเรียนอธิบายเกี่ยวกับปฎิกิริยาในชีวิตประจำวันพร้อมทั้งให้ระบุสารตั้งต้น สารผลิตภัณฑ์
ปฏิกิริยาเคมี   หมายถึง    การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดสารใหม่ มีสมบัติต่างจากสารเดิม สารก่อนการเปลี่ยนแปลงเรียกว่า สารตั้งต้น และสารที่เกิดใหม่เรียกว่า ผลิตภัณฑ์ ในขณะที่เกิดปฏิกิริยาเคมี นอกจากได้สารใหม่แล้วยังอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่นๆ อีกได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงพลังงาน
ตัวอย่างการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่น่าสนใจ
    1.N2(g) +  O2(g)   -------------->     2NO(g)
สารตั้งต้น คือ ไนโตรเจน  ออกซิเจน
สารผลิตภัณฑ์คือ ไนโตรเจนออกไซด์
    2.ทราย    +  แคลเซียมออกไซด์  +   โซเดียมคาร์บอเนต   -------------------->   แก้ว
สารตั้งต้น คือ ทราย  แคลเซียมออกไซด์   โซเดียมคาร์บอเนต
สารผลิตภํณฑ์ คือ  แก้ว
   3.เยื่อไม้    +  โซเดียมไฮดรอกไซด์  --------------->   เรยอง
สารตั้งต้น คือ เยื่อไม้   โซเดียมไฮดรอกไซด์
สารผลิตภัณฑ์ คือ  เรยอง
  ยกตัวอย่างปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
1.               ปฏิกิริยาการสลายตัวของโซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต( NaHCO3 )
                                  ความร้อน
           2NaHCO3  -------------------->      Na2CO3   +   H2O   +   CO2
2.               ปฏิกิริยาเคมีในชีวิตประจำวัน
3.                ปฏิกิริยาการเผาไหม้                          C  +  O2     ------>   CO2
                                            
4.               ปฏิกิริยาการสันดาปในแก๊สหุงต้ม      2C4H10     +    13O2       ------>        8CO2    +      10H2O
5.               ปฏิกิริยาการเกิดฝนกรด                          SO3  +  H2 O    ------>   H2SO4
6.               ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเหล็ก                   4Fe   +   3O2      ------>   2Fe2O3 . H2O
    

    

              

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พัฒนาการของเทคโนโลยี

1. การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น 
2. เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส   เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง 

3. สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน   การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ 
4. เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม   การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจำเป็นต้องใช้สารสนเทศ
 5. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ   กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ ควบคุมการทำงาน
6.การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม   การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำเป็น
ต้องหาวิธีการ ในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดำเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
 7. เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน   บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี
สารสนเทศ เพื่อจะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์